คืนความคล่องตัวให้ชีวิต ฟื้นฟูข้อเข่าที่เสื่อมสภาพอย่างถาวร

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า คือการรักษาที่ใช้สำหรับผู้ป่วยที่ข้อเข่าเสื่อมจนรุนแรง กระดูกอ่อนสึกหรอหมด หรือข้อเข่าผิดรูปจนส่งผลกระทบต่อการเดิน การนั่ง หรือการใช้ชีวิตประจำวัน การผ่าตัดนี้มีจุดประสงค์เพื่อลดอาการปวด ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว และช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างอิสระอีกครั้ง

การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าคืออะไร ?

เป็นการผ่าตัดเอาพื้นผิวกระดูกข้อเข่าที่สึกหรอออก แล้วใส่ข้อเข่าเทียม (Prosthesis) ซึ่งทำจากวัสดุพิเศษ เช่น โลหะผสม และพลาสติกคุณภาพสูง เพื่อเลียนแบบการทำงานของข้อเข่าธรรมชาติ

ประเภทการผ่าตัดที่ใช้บ่อย:

  • ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแบบทั้งหมด (Total Knee Replacement)

  • ผ่าตัดเปลี่ยนบางส่วนของข้อเข่า (Partial Knee Replacement) สำหรับผู้ที่มีการเสื่อมเฉพาะบางด้าน

เหมาะกับใคร ?

  • ผู้ที่มีข้อเข่าเสื่อมระยะท้าย (Severe Osteoarthritis)

  • ผู้ที่มีข้อเข่าอักเสบรูมาตอยด์ หรือโรคข้ออักเสบเรื้อรังอื่นๆ

  • ผู้ที่ข้อเข่าเสียหายจากอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ

  • ผู้ที่มีอาการปวดรุนแรง เคลื่อนไหวข้อเข่าได้จำกัด แม้พักผ่อนก็ยังปวด

  • ล้มเหลวจากการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เช่น กายภาพบำบัด การฉีดยา หรือ PRP

ขั้นตอนโดยสรุป

  1. ประเมินและเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
    ตรวจร่างกาย เอ็กซ์เรย์ และเตรียมสภาพร่างกาย
  2. การผ่าตัด
    ใช้เวลาประมาณ 1–2 ชั่วโมง ภายใต้การดมยาสลบหรือบล็อกหลัง
  3. การพักฟื้น
    • เริ่มกายภาพบำบัดตั้งแต่หลังผ่าตัดวันแรก

    • เดินได้โดยใช้เครื่องช่วยเดินภายใน 1–2 วัน

    • กลับบ้านได้ใน 3–5 วัน ขึ้นกับสภาพร่างกาย

  4. การฟื้นตัวระยะยาว
    กลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 6–12 สัปดาห์ และทำกิจกรรมเบาๆ เช่น เดิน ช้อปปิ้ง หรือขี่จักรยานเบาๆ ได้
  •  

ข้อดีของการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า

✅ บรรเทาอาการปวดข้อเข่าได้อย่างชัดเจน

✅ ฟื้นฟูการเคลื่อนไหวและความสามารถในการเดิน

✅ เพิ่มคุณภาพชีวิตในระยะยาว

✅ อายุการใช้งานของข้อเข่าเทียมเฉลี่ย 15–20 ปี

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

  • การผ่าตัดมีความเสี่ยงเช่น การติดเชื้อ การหลุดของข้อเทียม หรือข้อเคลื่อน ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์

  • ต้องมีการทำกายภาพบำบัดต่อเนื่อง เพื่อให้ผลลัพธ์ดีที่สุด

  • การควบคุมน้ำหนัก และการออกกำลังกายที่เหมาะสมช่วยยืดอายุข้อเข่าเทียมได้